เข้าใจธุรกิจเครือข่าย
สร้างรายได้หลักล้าน
เข้าใจธุรกิจเครือข่าย MLM (Multi-level Marketing)
Marketing หมายถึง การเคลื่อนสินค้าหรือบริการ จากผู้ผลิตไปถึงผู้บริโภค
Multi-level
อ้างถึง ระบบในการจ่ายค่าตอบแทนให้กับบุคคล
ผู้ซึ่งทำให้สินค้าหรือบริการนั้นเคลื่อนตัว
Multi หมายถึง มากกว่าหนึ่ง
Level
หมายถึง ระดับหรือรุ่น
คำว่า
MLM นั้นแพร่หลายมากเสียจนพวกพีระมิดที่ผิดกฎหมาย
และพวกลูกโซ่ต่างๆ ได้พยายามทำตัวเองให้เหมือนกับธุรกิจเครือข่าย
ซึ่งการกระทำดังกล่าวสร้างภาพลบอย่างร้ายกาจ
และไร้เหตุผลให้กับบริษัทธุรกิจเครือข่ายใหม่ๆ
จนกระทั่งเขาเปลี่ยนชื่อใหม่ให้กับแผนการตลาดของเขา เป็น Uni-level
Marketing, Network Marketing, หรือ Co-op Mass Marketing และอื่นๆ
มี 3 วิธีหลักๆ ในการเคลื่อนสินค้าและบริการ
คือ
1. Retailing หรือการขายปลีก
ผมเชื่อว่าทุกๆ คนคุ้นเคยกับระบบนี้ดีอยู่แล้ว คุณเดินเข้าไปในร้านของชำ ร้านขายยา
หรือห้างสรรพสินค้า แล้วซื้อสินค้าบางอย่างออกมา
2. Direct Sales หรือ การขายตรง
คือการเคลื่อนสินค้าไปสู่ผู้บริโภค ผ่านทางเทคนิคของการขาย เช่น
การไปบ้านลูกค้าเพื่อนำเสนอสินค้า การโทรศัพท์ไปขายของให้กับลูกค้า
การขายตรงบางครั้งถือว่าเป็นการขายที่ไม่มีพ่อค้าคนกลาง เช่น ร้าน Retail หรือบริษัทตัวแทนจำหน่าย เช่น การขายประกัน เครื่องครัว สารานุกรม
สาวขายเอว่อน
3. Multi-level Marketing หรือ
การตลาดเครือข่าย คือสิ่งที่เราจะพูดถึงในหนังสือนี้ เราไม่ควรสับสนระหว่าง 2
อย่างข้างบน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการขายตรง
คนส่วนใหญ่มักสับสนระหว่างการตลาดเครือข่ายกับการขายตรง
ยังมีการตลาดอีกแบบหนึ่งที่เรียกว่า
การสั่งทางไปรษณีย์ การทำการตลาดแบบไปรษณีย์สามารถถูกจัดอยู่ในกลุ่มของ Direct
Sale ได้ บางคนก็ถือว่าการตลาดทางไปรษณีย์เป็นการตลาดแบบที่ 4
แบบที่
5 ซึ่งมักถูกเข้าใจสับสนกับ MLM ก็คือ
แบบพีระมิด ดังที่กล่าวไปแล้วว่าพีระมิดนั้นผิดกฎหมาย
เหตุผลสำคัญที่พีระมิดผิดกฎหมาย เพราะว่ามันไม่สามารถเคลื่อนผลิตภัณฑ์
หรือบริการไปสู่ผู้บริโภคได้ ถ้าผลิตภัณฑ์ไม่เคลื่อนไหว เราจะเรียกมันว่า
"การตลาด" ได้อย่างไร
พีระมิดสามารถใช้คำว่า "เครือข่าย" ได้ แต่ไม่สามารถใช้คำว่า "การตลาด” ได้
ข้อขัดแย้งส่วนใหญ่ในใจคนมากมาย
ที่ทำให้เขาไม่เข้าร่วมธุรกิจ MLM คือ
เขาไม่รู้ความแตกต่างระหว่าง MLM กับการขายตรง
ไม่แปลกใจเลยที่คนส่วนมากสับสนเพราะบริษัท MLM ที่มีชื่อเสียงส่วนใหญ่นั้นอยู่ในสมาคมขายตรง
และในบางครั้งคุณอาจมองการทำธุรกิจเครือข่ายเหมือนการเดินขายของแบบเคาะประตู
เพราะว่าคุณได้รู้จักกับธุรกิจเครือข่ายครั้งแรก
เมื่อผู้จำหน่ายเคาะประตูบ้านคุณเพื่อพยายามขายของบางอย่างให้กับคุณ
ซึ่งแท้จริงแล้ว มีลักษณะบางอย่างที่แยก MLM ออกจากการขายตรง
นั่นคือ หากคุณอยู่ในธุรกิจ MLM คุณอยู่ในธุรกิจเพื่อตัวคุณเอง
แต่ไม่ใช่โดยตัวคุณเอง
การเข้าร่วมธุรกิจคือคุณจะซื้อสินค้าในราคาขายส่ง
(คุณควรใช้ผลิตภัณฑ์ด้วยตัวเองด้วย) หลายคนเข้าร่วมธุรกิจเพราะมีเหตุผลข้อนี้
หลังจากนั้นคุณก็จะเริ่มเอาจริงเมื่อคุณซื้อสินค้าในราคาขายส่ง
ถ้าคุณต้องการคุณสามารถขายปลีก และคุณจะได้ผลกำไร คนจำนวนมากเข้าใจผิดว่า
คุณต้องขายปลีก คุณจึงประสบความสำเร็จ
บางบริษัทถึงกับกำหนดยอดขายให้สมาชิกทำยอดตามเป้าเพื่อเขาจะได้รับผลตอบแทน
คุณสามารถขายถ้าคุณต้องการ
หรือถ้าคุณจำเป็นต้องขายเพื่อให้ได้รับผลตอบแทนก็ขายไปเถอะครับ
แต่หากคุณต้องการสร้างรายได้มหาศาลแล้วล่ะก็ ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ที่แท้จริงนั้นมาจากการสร้างองค์กร
ประเด็นสำคัญ
ให้การขายเป็นสิ่งที่ตามมาจากการสร้างองค์กรโดยธรรมชาติ
คนส่วนใหญ่ล้มเหลวเพราะเขาทำสิ่งที่กลับกัน คือ เขาพยายามสร้างองค์กรโดยการขาย
คำว่า
"ขาย" เป็นความคิดทางลบในจิตใจคนถึง
95% ในธุรกิจเครือข่ายคุณไม่จำเป็นต้องขายตามความเข้าใจของโลก
แต่อย่างไรก็ตาม ผลิตภัณฑ์ต้องเคลื่อนไหว มิฉะนั้นจะไม่มีใครได้รับเงิน Don
Failla ได้นิยามคำว่าขายไว้ว่า การโทรศัพท์ไปหาคนแปลกหน้า
เพื่อขายของบางอย่าง ที่เขาอาจไม่จำเป็นต้องใช้ หรือไม่ต้องการ
ขอยืนยันอีกครั้ง
ผลิตภัณฑ์ต้องเคลื่อนไหว มิฉะนั้นจะไม่มีใครได้รับเงิน
MLM สามารถเรียกได้อีกอย่างหนึ่งว่า
Network Marketing เมื่อคุณสร้างองค์กร
แท้จริงแล้วคุณกำลังสร้างเครือข่ายที่ใช้ในการกระจายสินค้าของคุณเอง
การขายนั้นยังคงเป็นรากฐานของธุรกิจเครือข่าย
เพียงแต่การขายในธุรกิจเครือข่ายนั้นมาจากการที่ผู้จำหน่าย "แบ่งปัน" ให้กับเพื่อนและญาติพี่น้องของเขา
ไม่ใช่ให้กับคนแปลกหน้า การสร้างธุรกิจขนาดใหญ่ให้ประสบความสำเร็จ
คุณต้องสร้างความสมดุล คุณต้องอุปถัมภ์ และสอน MLM ให้กับคนอื่น
และในกระบวนการนี้เอง คุณจะสามารถสร้างลูกค้าได้ซึ่งก็คือเพื่อนๆ
หรือญาติพี่น้องของคุณ
อย่าพยายามอุปถัมภ์คนทั้งโลกด้วยตัวของคุณเอง
จงจำไว้ว่า Network Marketing คือการสร้างองค์กรผู้จำหน่ายจำนวนมาก
แต่ละคนขายคนละเล็กคนละน้อย ซึ่งดีกว่าการใช้คนจำนวนน้อยๆ ขายของปริมาณมากๆ
บริษัทธุรกิจเครือข่ายส่วนใหญ่ไม่ต้องเสียเงินปริมาณมหาศาลไปกับการโฆษณา
เพราะสุดยอดแห่งการโฆษณาก็คือการบอกแบบปากต่อปากของสมาชิก ดังนั้น บริษัทเครือข่ายจึงมีเงินมาใช้ในการพัฒนาสินค้าได้มากกว่าบริษัททั่วๆไป
ดังนั้น คุณภาพสินค้าจึงมักดีกว่าสินค้าคู่แข่งในกลุ่มเดียวกันที่พบตามร้านขายปลีก
คุณจึงเพียงแค่แบ่งปันสินค้าที่มีคุณภาพสูงกว่าสินค้ายี่ห้ออื่นๆ ในหมวดเดียวกัน
ให้เขาเปลี่ยนมาใช้ยี่ห้อใหม่ ซึ่งคุณได้ทดสอบด้วยตัวคุณเองแล้วว่า มันดีกว่า
คุณคงเห็นแล้วว่านี่ไม่ใช่การเดินไปเคาะประตูตามบ้านเพื่อขายสินค้าให้กับคนแปลกหน้า
ธุรกิจเครือข่ายที่ผมรู้จักสอนว่า
การที่คุณแบ่งปันคุณภาพสินค้าและบริการให้กับเพื่อนของคุณ ทั้งหมดนี้แหละที่
"การขาย" เข้ามาเกี่ยวข้อง จริงๆ
ควรใช้คำว่า "การแบ่งปัน" มากกว่า
"การขาย" เพราะมันเป็นเช่นนั้นจริงๆ
ข้อแตกต่างอีกอย่างของ
MLM กับการขายตรงนั้นคือ การอุปถัมภ์ผู้จำหน่ายคนอื่นๆ
บางบริษัทอาจใช้คำว่าการหาสมาชิกใหม่ อย่างไรก็ตาม
การอุปถัมภ์กับการหาสมาชิกนั้นต่างกันอย่างแน่นอน
คุณอุปถัมภ์คนบางคนแล้วสอนให้เขาทำสิ่งที่คุณทำอยู่
เพื่อให้เขาสร้างธุรกิจของเขาเอง การอุปถัมภ์คนบางคน กับการทำให้คนบางคนเซ็นใบสมัครนั้นต่างกันมาก
เมื่อคุณอุปถัมภ์ใครบางคน
คุณกำลังให้คำมั่นสัญญาที่จะช่วยเขาจนกว่าเขาจะประสบความสำเร็จ
หากคุณไม่ประสงค์ที่จะให้คำมั่น คุณกำลังทำร้ายเขาถ้าคุณทำให้เขาเซ็นใบสมัคร
มันเป็นความรับผิดชอบของผู้อุปถัมภ์ที่จะสอนผู้ที่เขานำเข้ามาในธุรกิจ
ให้รู้ถึงทุกสิ่งทุกอย่างในธุรกิจ เช่น การสั่งสินค้า
การจดบันทึกความคืบหน้าในธุรกิจ การเริ่มต้น
วิธีในการฝึกอบรมองค์กรของเขาเองและอื่นๆ
ขอให้หนังสือเล่มนี้จะอยู่กับคุณไปตลอดจนกว่าคุณจะสามารถบรรลุความรับผิดชอบนี้ได้
เพราะการอุปถัมภ์เป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้ธุรกิจเครือข่ายเติบโต เมื่อองค์กรของคุณโต
คุณก็จะเป็นนักธุรกิจอิสระที่ประสบความสำเร็จ
ในที่สุดคุณจะกลายเป็นเจ้านายของตัวเอง
หากคุณทำงานให้กับบริษัทขายตรง
และคุณตัดสินใจที่จะลาออกเพราะคุณต้องย้ายไปอาศัยที่ท้องถิ่นอื่น
คุณอาจต้องเริ่มทำงานทั้งหมดใหม่อีกครั้ง แต่หากคุณอยู่ในบริษัท MLM คุณสามารถย้ายไปในท้องที่ใดก็ได้ และเริ่มอุปถัมภ์ผู้คนใหม่ โดยไม่สูญเสียยอดขายจากองค์กรที่คุณได้สร้างไว้แล้วในท้องที่เดิม
การทำธุรกิจเครือข่ายคุณสามารถสร้างรายได้ได้มากมายจากการสร้างองค์กร
ไม่ใช่แค่การขาย ผมยังขอยืนยันอีกครั้ง
คุณสามารถมีความเป็นอยู่ที่ดีได้จากการขายของ
แต่คุณสามารถสร้างความมั่งคั่งอย่างถาวร ได้ด้วยการสร้างองค์กรเท่านั้น
ผู้คนจำนวนมากเข้าสู่ธุรกิจเครือข่ายเพียงแค่ต้องการมีรายได้เพิ่มเดือนละ
2,000 บาท, 5,000 บาท หรือ 10,000 ต่อเดือน
และทันใดนั้นเขาต้องการที่จะจริงจังและเขาสามารถทำได้ถึงเดือนละ 50,000 บาท, 100,000 บาท 200,000 บาท
หรือมากกว่านั้น เขาเหล่านี้ไม่ได้หาเงินจำนวนมากจากการขายของ
เขาทำได้จากการสร้างองค์กร
นั่นคือวัตถุประสงค์ของบทความนี้
ที่จะสอนคุณให้สามารถสร้างองค์กรได้และทำได้อย่างรวดเร็ว
ด้วยโดยการสอนให้คุณสร้างทัศนคติที่ถูกต้องเกี่ยวกับธุรกิจเครือข่ายให้กับผู้มุ่งหวัง
หากผู้มุ่งหวังของท่านเข้าใจว่าธุรกิจเครือข่ายนั้นผิดกฎหมายเสียแล้ว
คุณจะมีปัญหาในการอุปถัมภ์เขาอย่างแน่นอน
คุณต้องชี้แจงให้เขาเห็นถึงข้อเท็จจริง เพื่อขจัดทัศนคติหรือความเข้าใจที่ผิด ว่า ธุรกิจเครือข่ายนั้นเหมือนพีระมิด ขอให้ทำความเข้าใจตัวอย่างข้างล่างและรูปนี้ เพราะคุณสามารถนำไปใช้อธิบายกับผู้มุ่งหวังได้
พีระมิดนั้นสร้างจากยอดลงมาด้านล่าง ดังนั้นผู้ที่เข้ามาสู่ธุรกิจเป็นกลุ่มแรกเท่านั้นที่สามารถอยู่ด้านบนของพีระมิด แต่ในรูปสามเหลี่ยมในธุรกิจเครือข่าย ทุกๆ คนเริ่มต้นจากด้านล่างและมีโอกาสเท่าๆ กันที่จะสร้างองค์กรขนาดใหญ่ของตัวเอง ทุกๆ คนสามารถสร้างองค์กรให้ใหญ่กว่าองค์กรของผู้อุปถัมภ์ของเขาได้หลายเท่าถ้าต้องการ
เปิดสอน
หลักสูตรวิชาชีพระยะสั้น “สุดยอด วิธีการสร้างรายได้ พิชิตเงินล้าน”
ด้วยวิธีการเรียนออนไลน์ อยู่ที่ไหนก็เรียนได้ รับประกันรายได้ 70,000 บาท
เมื่อสำเร็จการศึกษา หลังจากนั้นมีรายได้อย่างต่อเนื่องแบบทวีคูณ อาจถึงหลักล้าน
ถ้าพร้อมที่จะรวยศึกษารายละเอียด คลิก https://sites.google.com/view/teachm/home



ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น