ธุรกิจเครือข่าย
ไม่เน้นขายสินค้า ก็รวย
ทำไมเซลล์แมนจำนวนมากมายจึงล้มเหลวในการสร้างธุรกิจเครือข่าย
ธุรกิจเครือข่าย
เป็นเพียงวิธีในการทำการตลาดเท่านั้น เราไม่ได้อุปถัมภ์คนเข้ามาในองค์กรขายตรง
เราอุปถัมภ์เขาเข้ามาในธุรกิจเครือข่าย
บ่อยครั้งที่เมื่อคุณอุปถัมภ์เซลล์แมนคุณจะพบปัญหาดังนี้
เมื่อเขาเห็นถึงสุดยอดคุณภาพในสินค้าในบริษัทของคุณ เขาจะเริ่มออกไปพูดทันที
เขาจะนำความสามารถในการขายของเขาเข้ามาประยุกต์ใช้อีกด้วย
อีกทั้งเขาไม่ต้องการให้เราสอนเขาขาย เพราะว่าเขาเป็นมืออาชีพอยู่แล้ว
ซึ่งปัญหาอยู่ตรงนี้ เราไม่ได้ต้องการสอนเขาขาย เราต้องการสอนเขาให้ "สอน" และ "อุปถัมภ์"
เพื่อที่เขาจะได้สร้างองค์กรขนาดใหญ่ได้สำเร็จ
เขาหรือไม่ว่าใครก็ตาม สามารถทำได้โดยไม่ต้องขายอะไรทั้งนั้น
ตามความเข้าใจและคำจำกัดความของการขาย
หากคุณไม่อธิบายให้เขาเข้าใจในธุรกิจเครือข่าย
และเหตุผลว่าทำไมธุรกิจเครือข่ายถึงต่างกับ Direct Sale แล้วล่ะก็
มีความเป็นไปได้มากทีเดียวที่เขาจะออกไปทำธุรกิจแบบผิดๆ ตามตัวอย่างต่อไปนี้
คนส่วนใหญ่
(โดยเฉพาะนักขาย) คิดว่าเมื่อคุณอุปถัมภ์ (Sponsor) ใครบางคนเข้ามาสู่ธุรกิจ
คุณได้จำลองตัวเอง (Duplicate) สำเร็จเรียบร้อยแล้ว
คุณเคยวาดรูปนี้ใช่ไหมครับ วงกลมๆ มีคำว่าคุณอยู่ตรงกลาง
แล้วก็มีขีดลงมาหาวงกลมอีก 1 วงที่อยู่ข้างล่าง
นี่ไง
ตอนแรกมี 1 ตอนนี้มี 2 แล้ว
มันดูเหมือนจะมีเหตุผล แต่แท้จริงไม่ได้เป็นเช่นนั้น เพราะว่า
หากคนที่เป็นคนข้างบน (ผู้สปอนเซอร์) หายไปแล้วละก็ ผู้ถูกสปอนเซอร์ก็จะหายไปด้วย
เขาจะไม่ทำธุรกิจต่อ คุณต้องอธิบายให้ทีมงานของคุณเข้าใจว่า
เขาต้องการที่จะจำลองตัวเองจริงๆ แล้วล่ะก็ เขาต้องมีทีมงานอย่างน้อยลึกลงไป 3
ชั้น ลึกอย่างน้อย 3 ชั้นเท่านั้นจึงจะถือว่าเขาจะจำลองตัวเองได้สำเร็จ
สมมุติว่าคุณอยู่ตรงข้างบนสุด
แล้วคุณได้อุปถัมภ์นาย ก. เข้ามาสู่ธุรกิจ ถ้าตอนนี้คุณหายไป และนาย ก.
ก็ไม่รู้ว่าจะทำธุรกิจต่อไปอย่างไร หากเป็นแบบนี้ก็จบกัน แต่หากคุณสอนให้นาย ก.
รู้ว่าจะอุปถัมภ์คนอย่างไร และเขาได้อุปถัมภ์นาย ข. เข้าสู่ธุรกิจได้สำเร็จ
นี่คือจุดเริ่มต้นของการจำลองตัวเองของคุณเท่านั้น
หากคุณสร้างองค์กรลึก
3 ชั้นได้แล้วคุณจากไป (ไปทำงานร่วมกับผู้เอาจริงคนอื่น)
องค์กรชุดนี้จะยังคงอยู่ และดำเนินต่อไปได้ ผมขอย้ำอีกครั้ง
คุณต้องทำงานร่วมกับคนของคุณจนกว่าคุณจะสร้างองค์กรได้ลึก 4 ชั้น
คุณจะไม่ประสบความสำเร็จอะไรทั้งสิ้นจนกว่าคุณจะสร้างองค์กรได้ลึก 4 ชั้น
แม้ว่าคุณจะไม่เคยสอนเรื่องอะไรเลยกับทีมงานของคุณ
แต่คุณได้เน้นย้ำเรื่องนี้กับเขา
คุณยังกำกุญแจสำคัญที่ทำให้คุณประสบความสำเร็จเหนือธุรกิจเครือข่ายคนอื่นๆ ได้
แล้วเกิดอะไรขึ้นกับเซลล์แมน
เขาดูวิธีนำเสนอสินค้า
ได้ฟังและอ่านประสบการณ์จากผู้ที่ใช้สินค้าแล้วประทับใจมากมาย หลังจากได้ข้อมูลอย่างท่วมท้นเขาจึงออกไปขายอย่างบ้าคลั่ง
อย่าลืมว่าเขาเป็นยอดนักขายในธุรกิจขายตรงมาก่อน
อีกทั้งเขาไม่มีปัญหาในการขายของให้กับคนแปลกหน้าเสียด้วย
เยี่ยมไปเลย
สมมุติคุณบอกกับสุดยอดนักขายในทีมงานของคุณ สมมุติว่าเขาชื่อ “สมชาย” ก็แล้วกัน คุณบอกกับเขาว่า "สมชาย ถ้านายอยากสร้างเงินมหาศาลแล้วละก็ นายต้องอุปถัมภ์ (Sponsor)
คนอื่น"
แล้วนายสมชายจะทำอย่างไร
เขาออกไปสปอนเซอร์ สปอนเซอร์ สปอนเซอร์ เหมือนเครื่องจักร
เซลล์แมนที่เก่งสามารถสปอนเซอร์ผู้คนได้มากกว่า 3-4 คนต่อสัปดาห์
สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อถึงจุดๆ หนึ่ง (และการที่จะถึงจุดๆ นี้ใช้เวลาไม่นานนักหรอก)
คือ คนเหล่านั้นจะหลับไปเร็วพอๆ กับการที่เขาเข้ามาสู่ธุรกิจ
ถ้าคุณไม่ทำงานร่วมกับเขาอย่างมีประสิทธิภาพ
(อย่าลืมว่าคุณจะทำงานอย่างมีประสิทธิภาพกับคนไม่เกิน 5 คนเท่านั้น)
คุณจะพบว่าพวกเขาจะสูญเสียกำลังใจและล้มเลิกไปในที่สุด ส่วนสมชาย
เขาเริ่มผิดหวังและหมดความอดทน เขาไม่เห็นความคืบหน้าและล้มเลิกไปในที่สุด
ส่วนผู้ที่อุปถัมภ์สมชายสู่ธุรกิจ เดิมทีเขาคิดว่าสมชายจะทำให้เขารวย
แต่สุดท้ายเขาก็ผิดหวังและล้มเลิกไปเช่นกัน
คนส่วนใหญ่ที่ประสบความสำเร็จในธุรกิจเครือข่ายไม่ได้มีพื้นฐานมาจากการขาย
แต่พวกเขาจะมีความสามารถในการ "สอน" แม้ว่าเขาจะไม่ได้เป็น "ครู" โดยอาชีพก็ตาม ผมรู้จักครูคนหนึ่งที่เข้ามาในธุรกิจได้เพียง 24 เดือน แต่ก็ประสบความสำเร็จมากทีเดียว เขาทำมันได้
และเขาทำโดยสอนให้คนอื่นรู้ว่าจะทำมันอย่างไร
เราลองมาใส่ตัวเลขในกรณีศึกษาของสมชายดีกว่า
เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนมากขึ้นว่าเขาทำอะไรผิดพลาด
สมมุติว่าสมชายผู้ซึ่งเป็นสุดยอดนักขายออกไปสปอนเซอร์คนได้ 130 คน สมมุติว่าสมชายทำให้คนทั้ง 130 คนนั้นสปอนเซอร์คนได้อีกคนละ
5 คน จะกลายเป็น 130 x 5 = 650 คน
รวมกับคนที่คุณหาเองอีก 130 คน ทั้งหมดเป็น 780 คน (คุ้นๆ กับเลขนี้หรือเปล่าครับ)
เมื่อคุณยกกรณีศึกษานี้ขึ้นมาอธิบายกับทีมงานของคุณ
ขอให้คุณถามคำถามนี้ด้วย "คุณคิดว่าการที่คุณเองต้องสปอนเซอร์คน
130 คน แล้วสอนให้เขาสปอนเซอร์คนละ 5 คน
กับสอนให้คนเอาจริงเพียง 5 คน สอนทีมงานของเขาเพียง 5
คน ทำงานเป็น แบบไหนเร็วกว่ากัน
คุณคิดว่าคุณจะใช้เวลามากแค่ไหนในการหาคน
130 คน
และจะมีสักกี่คนที่เหลือรอดหลังจากที่คุณสปอนเซอร์คนที่ 130 ได้สำเร็จ
คุณจะพบว่าคุณจะสูญเสียคนที่เข้ามาช่วงแรกไปเร็วมาก อัตราการเหลือรอดของคน 780
คนที่ได้มาจาก 5 x 5 x 5… นั้นสูงกว่าอัตราการเหลือรอดของ
(130 x 5)+130 มากนัก
เมื่อไหร่ที่คุณแสดงให้ยอดเซลล์แมนของคุณเข้าใจในข้อเท็จจริงนี้เขาจะพูดว่า
"ผมรู้แล้วว่าผมควรจะทำอย่างไร" และเขาจะทำ
การกระตุ้นให้คนออกไปสปอนเซอร์นั้นเป็นสิ่งดี
แต่อย่างไรก็ตามคุณต้องคอยดึงคนของคุณไว้ด้วย
คนส่วนใหญ่มักกระตุ้นคนของเขาออกไปทำธุรกิจทันที สมมุติผู้ที่คุณสปอนเซอร์มา
ออกไปทำงานแล้วเขามาบอกกับคุณว่า "อาทิตย์ที่แล้วผมสปอนเซอร์ได้
5 คนครับ" คุณคงจะพูดว่า
"เยี่ยมมาก" แล้วตบหลังให้กำลังใจเขา
อาทิตย์ต่อมาเขาสปอนเซอร์คนได้อีก 5 คนเหมือนเดิมอีก
แล้วเกิดอะไรขึ้นกับ 5 คนในอาทิตย์แรกล่ะ เขาหายไปหมด
ตอนนี้คุณเข้าใจ
"ความล้มเหลวของเซลล์แมน" แล้ว
คุณจะไม่กระตุ้นให้เขาออกไปสปอนเซอร์เพียงอย่างเดียว แต่ต้องเน้นย้ำว่า
การช่วยเหลือให้คนที่เขาพามานั้นทำงานได้สำคัญมากกว่ามาก
เขาต้องออกไปช่วยให้คนที่เขาพามาทำงานได้เสียก่อน เมื่อคุณอุปถัมภ์ใครบางคน
มันจำเป็นมากที่ผมจะต้องออกไปกับพวกเขาเพื่อไปอุปถัมภ์คนอื่นก่อน
แทนที่จะออกไปอุปถัมภ์คนอื่นเพื่อตัวผมเอง
..............................................
เปิดสอน
หลักสูตรวิชาชีพระยะสั้น “สุดยอด วิธีการสร้างรายได้ พิชิตเงินล้าน”
ด้วยวิธีการเรียนออนไลน์ อยู่ที่ไหนก็เรียนได้ รับประกันรายได้ 70,000 บาท
เมื่อสำเร็จการศึกษา หลังจากนั้นมีรายได้อย่างต่อเนื่องแบบทวีคูณ อาจถึงหลักล้าน
ถ้าพร้อมที่จะรวยศึกษารายละเอียด คลิก https://sites.google.com/view/teachm/home




ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น